WRITERS AND COMPANIONS: แก๊งสัตว์เลี้ยงของนักเขียนแซลมอน

12 สิงหาคม 2022 | by salmonbooks

ม่นานมานี้เราเพิ่งปล่อย ‘10 THINGS I HATE ABOUT MAOHAI บ้านนี้หมาไม่เห่า’ หนังสือบันทึกวีรกรรมสุดแสบของเจ้า ‘เม่าไห่’ หมาพันธุ์บาเซนจิที่ถึงจะไม่เห่าแต่แสบสุดๆ ออกมาให้นักอ่านได้ผ่านตากันไปบ้างแล้ว 

วันนี้เราเลยนึกสนุกอยากชวนเหล่านักเขียนที่มีสัตว์เลี้ยงมาเมาท์น้องๆ ของตัวเองกันบ้าง มาดูกันดีกว่าว่านักเขียนชาวแซลมอนเลี้ยงสัตว์อะไรกัน และจะมีวีรกรรมแสบๆ สู้เจ้าเม่าไห่ได้หรือเปล่า

ส่วนใครอยากติดตามวีรกรรมของเจ้าเม่าไห่ สามารถดูรายละเอียดหนังสือได้ที่ salmonbooks.net/product/maohai/ เลยจ้า

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“จริงๆ เรากับแม่ไม่อยากเลี้ยงหมาแล้ว แต่อยู่ๆ พ่อก็เอามาแบบไม่บอกกล่าวค่ะ กลับจากที่ทำงานตอนเย็นคือเจอมันนั่งอยู่ในบ้านแล้ว จะเอาไปคืนก็ไม่ทัน เลยต้องเลี้ยงค่ะ ?

“เป็นหมาพันธุ์บาเซนจิ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ ‘ไม่เห่า’ พ่อเลยตั้งชื่อมันว่า ‘เม่าไห่’ ค่ะ มันแทบไม่เห่าเลยจริงๆ แต่หอนไม่หยุดแทน”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“หอนไม่หยุด ขโมยของ ทำลายข้าวของ บูลลี่หมาตัวอื่น กินของทุกอย่างที่ไม่ใช่อาหาร และอีกมากมาย สามารถอ่านต่อได้ในหนังสือ 10 THINGS I HATE ABOUT MAOHAI บ้านนี้หมาไม่เห่า นะค้าาาา” 

 

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้พิมพ์หนังสือการ์ตูนเล่มแรกค่ะ เมื่อปีก่อนวาดการ์ตูนด่าหมาตัวเองลงเฟซบุ๊กเล่นๆ แล้วมีคนแชร์ไปจน บ.ก. แซลมอนมาเห็น เขาเลยชวนมาเขียนหนังสือค่ะ

“ช่วงปั่นต้นฉบับ เราต้องลุกไปเล่นกับมันเรื่อยๆ ค่ะ เพราะมันชอบมากวน แต่ก็ถือว่าได้ยืดเส้นยืดสาย ได้ออกกำลังกาย ไม่งั้นคงปวดหลังยิ่งกว่านี้ 555”

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“วันนั้นผมอยู่ข้างนอกบ้าน อยู่ดีๆ แม่โทรมาบอกว่าคนที่บ้านส่งหมามาจากขนส่งที่ต่างจังหวัด แม่จะเข้าบ้านช้า ฝากกลับบ้านไวไปดูให้หน่อย งงมาก งงว่ามายังไงวะ ถึงบ้านเปิดประตูไป ห้องนี่เต็มไปด้วยทิชชู่ ของล้มกระจัดกระจายเหมือนบ้านเพิ่งมีแผ่นดินไหว ส่วนหมาที่เพิ่งมาถึงวันแรกกำลังยืนงงพร้อมกระดาษทิชชู่คาปาก นั่นคือวันแรกที่ผมรู้จักหมาพันธุ์บีเกิ้ล และเป็นจุดเริ่มต้นของการรับรู้นรกบนดินเวลาเราปล่อยหมาพันธุ์นี้อยู่บ้านคนเดียว”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“ผมเสียแผ่นซีดีที่เก็บไว้เป็นร้อยๆ แผ่น รองเท้าขาดเกินสิบคู่ ประตูบ้าน ประตูห้องน้ำพังอีกอย่างละสอง หนังสือเละ แต่ไม่อยากนับเพราะปลงไปแล้วตั้งแต่วันแรกๆ แต่ที่สงสารและขำในเวลาเดียวกันคือพี่แกไปแทะตู้ไม้ จริงๆ อาจจะไม่ได้เรียกว่าแทะ เพราะสิ่งที่เห็นคือรูกลมๆ หนึ่งรูที่เจ้าตัวสามารถมุดเข้าไปได้ ล่อเสร็จก็มานั่งตัวสั่นหน้าบ้าน คนในบ้านก็งงว่าทำไมวันนี้นิ่ง แม่สงสัยทำไมตัวสั่นเดินมาเปิดปากดู เศษไม้จากตู้เสียบเหงือกอยู่…”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“การมีถุงเงิน (หมาผมชื่อถุงเงิน) ในช่วงแรกๆ ส่งผลให้ผมรู้จักเรื่องของยุบหนอ พองหนอ และการให้อภัยคือสิ่งประเสริฐ เพราะหมาพันธุ์นี้จะทำให้คุณหัวร้อนได้แทบทุกวัน คุณลองไปถามใครที่เลี้ยงหมาพันธุ์นี้ก็ได้ ผมมั่นใจว่าทุกคนเข้าใจผมดี แต่หลังจาก 7-8 ขวบไปแล้ว เหมือนถุงเงินลาออกจากการเป็นบีเกิ้ล คือเขาจะอยู่นิ่งๆ อยู่ใกล้ๆ คนในบ้าน กิจกรรมในชีวิตเหลือแค่ กิน ขี้ (ไม่ปี้) แล้วก็เอาแต่นอน คุณจะไม่รู้สึกว่ากำลังเลี้ยงหมา แต่จะรู้สึกเหมือนในบ้านมีเงาตะคุ่มๆ คอยแว่บไปแว่บมา และถ้าคุณรอให้ถุงเงินเห่า ระดับความยากในการรอน่าจะระดับเดียวกับการรอดูสายรุ้งในกรุงเทพฯ

“สิ่งที่ถุงเงินสอนผมไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิต หรือแม้แต่การเขียนหนังสือก็คือ ถ้าเครียด ไม่ไหว เหนื่อย เจ็บปวด เสียใจ  เจออะไรแย่ๆ มา ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถ้าไม่รู้ชีวิตจะเอายังไง มึงไปนอน การนอนจะเยียวยาทุกสิ่ง นอนไม่หลับใช่มั้ย มึงทิ้งตัวลงไปบนที่นอน แล้วเดี๋ยวอะไรมันจะค่อยๆ ดีขึ้น อย่าไปก่นด่าอะไรที่มันเสียเวลาเกินไป เอาเวลาที่ควรเสียไปใช้กับสิ่งที่ชอบ สิ่งที่มันเป็นชีวิตของเราดีกว่า ซึ่งถุงเงินก็ทำแบบนั้นมาตลอดชีวิตจนถึงตอนนี้ และทุกครั้งที่เห็นถุงเงินทำตัวแบบนี้ก็จะมีความรู้สึกว่า เออ ผมเห็นด้วยกับหมาตัวนี้มาตลอด (ยกเว้นการชอบทำลายข้าวของ)”

— 

ดูรายละเอียด ‘HOME AWAY FROM HOME เกาหลีใต้ ที่เห็นและไปอยู่’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/product/home-away-from-home/ 

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“ตั้งแต่เสียแมวไปก็ไม่คิดจะเลี้ยงสัตว์อะไรอีก แต่ลูกเพ้อว่าอยากเลี้ยงสัตว์ ทีแรกขอว่าอยากเลี้ยงหอยทากตาม Spongebob โห…หอยทากเลยเหรอลูก… หมามั้ย ได้กอดมันด้วย

“ก็เลยคิดว่าถ้ามีหมาเป็นเพื่อนลูกก็คงดี บังเอิญแถวบ้านมีคนเลี้ยงบอสตันเทอเรียร์ แล้วรู้สึกว่าหมามันสงบดี (ไม่ชอบหมาบ้าพลัง) และดูใจดี เลยอยากได้แบบนั้น แต่หาไม่ได้เลย เลยคิดเอาเองว่า งั้นลองเลี้ยงเฟรนช์บูลด็อกมั้ย 

เย็นวันนั้นก็เจอฟาร์ม วันต่อมาก็ไปหา ได้หมาเลย ไทธรรม์ตั้งชื่อรอไว้ตั้งแต่ไก่โห่ว่า ‘แกรี่’ (ตามชื่อหอยทากของ Spongebob)”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“หลักๆ คือเราเลี้ยงหมาผิดรุ่น เพราะสิ่งที่เราอยากได้ทั้งหมด (สงบ, อยู่ตัวเดียวได้, เลี้ยงง่าย) อีแกรี่ตรงข้ามหมดเลย เพราะบ้าพลังฉิบหาย แรงโคตรเยอะ ติดคนมาก น้ำลายเยอะ นั่นนี่ เหมือนเราต้องการซื้อเพลงสุนทราภรณ์ แต่ดันไปหยิบซีดีวง Slipknot สรุปคือ แกรี่มันบ้าพลังมากเสียจนไทธรรม์เล่นด้วยไม่ได้”

“วีรกรรมของแกรี่ก็คือ มันพร้อมทำลายทุกอย่าง—จบ.”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“ส่งผลมาก เพราะเราต้องการให้บ้านสงบเงียบ (เพราะงานกูวุ่นวายทุกวัน) ตอนนี้เลยกลายเป็นว่า ในบ้านจะมีวัตถุหนึ่งตัวที่ขยับตัวไปมาตลอดเวลา เวลาจะไปไหนมาไหนลำบากมาก ต้องคิดถึงมัน ต้องพามันไปนั่นนี่ อาบน้ำให้มันก็ไม่ได้ เพราะสู้แรงมันไม่ไหว”

ดูรายละเอียดหนังสือของ ‘วิชัย’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/author/vichai/ 

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“ป๊ามีเพื่อนทำฟาร์มน้องที่อุบล ทำไปทำมาน้องล้นฟาร์ม ป๊าเลยรับมาอุปการะ ซึ่งก็ดี เพราะช่วยให้บรรยากาศบ้านมีชีวิตชีวาขึ้น เหมือนทุกคนโดนหมาลาเต้ตก ปัจจุบันกลายเป็นเป็นศูนย์รวมจิตใจเรียบร้อย 55”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“ไม่มีวีรกรรมเป็นชิ้นเป็นอัน แต่เป็นความอะไรของมึงในทุกวันมากกว่า เช่นว่าเวลาเรากลับไปอุบลฯ ทุกครั้งจะดีใจจนฉี่แตก ซึ่งเป็นทุกที หมอบอกว่าโตไป อาการนี้จะหายเอง หรืออีกอันที่รู้สึกว่าประหลาดดี คือเป็นหมาชอบกินผัก กินแตงกวา ผักกาดอะไรพวกนี้ ชอบมาก กินเป็นสแน็กเลย บางวันชอบยิ่งกว่าอาหารเม็ดมื้อหลัก ซึ่งแปลกเพราะเราเลี้ยงหมามาหลายตัว ไม่เคยมีหมาอินวีแกนขนาดนี้ 55”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“แต่ก่อนเวลากลับไปอุบลฯ ทุกเดือนจะชอบหอบงานเขียนกลับไปทำ แต่พอมีน้องแล้วอยากพามันไปเดินเล่น โยนบอลเล่นมากกว่า เลยจะพยายามเคลียร์งานให้เสร็จก่อน ซึ่งทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางทีพิมพ์ๆ งานอยู่ น้องคาบบอลมาข้างๆ ละ ประมาณว่า ไอ้แว่น มึงไปเล่นกับกูเสียดีๆ 55”

ดูรายละเอียดหนังสือของ ‘ธนชาติ ศิริภัทราชัย’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/author/thanachart/

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“จริงๆ ตั้งแต่เกิดมาเราก็แทบจะไม่เคยอยู่ในบ้านที่ไม่มีหมาเลย เราเคยมีหมาที่อายุเท่ากัน เติบโตมาด้วยกัน ชื่อว่าเชอรี่ เป็นลาบราดอร์ตัวใหญ่แสนขี้เกียจที่วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่นอนกับตื่นมาเล่นน้ำจากสายยางตอนรดน้ำ เราจึงคุ้นชินกับความครึกโครมของบ้านที่เลี้ยงหมาเป็นอย่างดี แต่มันก็มีจุดเปลี่ยนคือตอนที่เจ้าเชอรี่ตายไปตอนเราอยู่มัธยม มันกะทันหันเสียจนทำใจลำบาก ทำให้หลังจากนั้นเราไม่ได้เลี้ยงหมาอีกเลย จนมาถึงช่วงปี 1 ถึงเริ่มคุยกับแม่ว่าอยากกลับมาเลี้ยงหมาอีกครั้ง ก็หาข้อมูล เดินทางไปฟาร์ม และก็ได้ลงเอยมาเป็นเจ้าแลรี่ หมาพันธุ์เวสตีส์ที่แม่อยากเลี้ยงมานาน เพราะเห็นจากภาพบนแพ็กเกจอาหาร Cesar”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“เยอะมากนะ 555555 ช่วงแรกๆ แลรี่มีปัญหาชอบกินอึตัวเอง ตอนแรกเราก็สงสัยว่ามันไปอึที่ไหนเลยลองเฝ้าดู ปรากฏว่าที่เราไม่เห็นอึมันเพราะมันกินเข้าไปเฉยเลย พอลองหาข้อมูลดูก็พบว่ามันอาจจะมีสาเหตุจากการอยากเรียกร้องความสนใจ หรือไม่ก็กลัวโดนดุเลยต้องทำลายหลักฐาน ก็ต้องปรับวิธีการเลี้ยงกันไป

“อีกเรื่องนึงคือหลังจากรับแลรี่มาเลี้ยงได้ไม่นาน เราก็ไปเอาพังพอน หมาพันธุ์ปอมเมอเรเนียน มาเลี้ยงต่ออีกตัวเป็นเพื่อนและจับให้อยู่กรงเดียวกัน หวังว่าจะให้แลรี่เป็นพี่ชายแสนดีช่วยเลี้ยง ปรากฏว่าวันแรกหลังจากอยู่ในกรง เราก็กลับบ้านมาเจอทั้งสองตัวกระโดดโลดเต้นดีใจกันยกใหญ่ ในใจก็คิด เออ มันน่าจะอยู่ด้วยกันได้นะ แต่ดีใจได้ไม่นาน ไอ้แลรี่กลับคึกซะจนกระโดดสะดุดขอบคอก ล้มลงมาทับน้องพังพอนจนสะโพกหัก ต้องพาไปโรงพยาบาลเข้าเฝือกอีกเป็นเดือน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่รู้ว่ารู้สึกผิดหรืออะไร ไอ้แลรี่ก็มักจะโดนพังพอนเห่าดุตลอดเวลาก่อกิจกรรมวุ่นวายเหมือนโดนครูปกครองเช็ก ก็เวรกรรมอะนะ

“หรืออย่างตอนเรากลับมาจากโรงพยาบาลเพราะไปผ่าไส้ติ่ง ก็ต้องตื่นแต่เช้ามาให้ข้าวมันทุกวัน เก็บอึเช็ดฉี่เพราะไม่มีใครอยู่บ้าน ถ้าเป็นในหนังก็คงจะมีฉากซาบซึ้งเข้ามาเลียอะไรกันบ้าง แต่นี่ขอให้มันไม่ตื่นเต้นจนเหยียบแผลเปิดก็เป็นบุญมากแล้ว

“จริงๆ มีอีกเยอะเหมือนกัน เพราะก็อยู่ด้วยกันและสร้างเรื่องตลกๆ แทบจะทุกวัน ไว้หาโอกาสเล่าใหม่แล้วกันนะ”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“เราว่าการมีอยู่ของหมาๆ ที่บ้านมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว เลยไม่รู้ว่ามันสร้างความแตกต่างยังไงบ้างเหมือนกัน ทุกวันนี้มันอัตโนมัติมากๆ ว่าเวลาเราจะไปเที่ยวไหนก็จะซื้อของ (ส่วนใหญ่จะเป็นของกิน) กลับมาฝากมันบ้าง แวะซื้อของที่มันน่าจะเล่นได้กลับมาบ้าง พอเรามองพวกเขาเป็นสมาชิกครอบครัว เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะต้องตอบแทนด้วยความซื่อสัตย์อะไรพวกนี้เลย แค่เห็นพวกมันกินอิ่มนอนหลับ ไม่เป็นโรค (แม้ว่าทุกวันนี้มันจะเป็นโรคผิวหนังเพราะชอบไปคลุกดินก็ตาม) แค่นั้นก็พอแล้ว เพราะเราเองจริงๆ ก็ได้ประโยชน์มากเกินพอจากพวกเขาเหมือนกัน ทั้งการมีนาฬิกาปลุกส่วนตัว (แต่เลือกเสียงและเวลาปลุกไม่ได้) การที่เราเป็นคนละเอียดขึ้น เพราะต้องคอยดูว่าในจานข้าวมีขนหมาอยู่หรือเปล่า การต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ก่อนออกจากบ้าน เพราะโดนพุ่งจู่โจม หรือการที่เราเขียนต้นฉบับอยู่และมีที่วางเท้าแสนนุ่ม เรื่องราวเล็กๆ เหล่านี้มันก็เพียงพอที่จะทำให้เราอยากมีชีวิตและมีแรงทำงานแล้วนะ”

ดูรายละเอียด ‘UNTITLED CASE: HUMAN HORROR ชมรมคนหัวลุก’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/product/untitled-case-human-horror/ 

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“ผมอยากเลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่เด็กๆ (ถึงแม้ว่าตอนอยู่อนุบาลจะเคยโดนหมาที่โรงเรียนกัดหัว เพราะทำหมาตกใจก็ตาม) แต่ด้วยเหตุที่ผมโตมาตัวคนเดียวที่ประเทศอังกฤษ และก็อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 1992 ผมจึงไม่มีโอกาสเลี้ยงสุนัข ส่วนภรรยาของผม เขาโตมาพร้อมกับสุนัขเป็นสิบๆ ตัวที่ประเทศไทย พอเราแต่งงานกันและมีโอกาสได้ซื้อบ้านเป็นของตัวเอง เราก็เลยตัดสินใจจะเลี้ยงสุนัขกัน และนั่นก็คือที่มาของ ‘พัทนี่’ หรือ ‘ผัดหมี่’ ชื่อไทยของเขาที่หลายๆ คนรู้จัก และชื่อของพัทนี่ก็มาจากเขต Putney ซึ่งเป็นเขตหนึ่งในลอนดอนที่ภรรยาและครอบครัวของเขาเคยอาศัยอยู่ตอนที่เขาเด็กๆ”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“ด้วยเหตุที่อังกฤษเป็นประเทศที่รักสุนัขมากๆ มีพื้นที่ให้หมาวิ่งเล่นได้โดยไม่ต้องกลัวอันตรายใดๆ พัทนี่จึงใช้ชีวิตอย่างอิสระมากๆ และด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีวีรกรรมในแต่ละวันอย่างนับไม่ถ้วน ตั้งแต่เอาตัวเองไปกลิ้งกับอึหมาจิ้งจอกในสนามกอล์ฟบ้าง กลิ้งกับโคลนบ้าง แต่ถ้าเขาแฮปปี้ เราทั้งสองก็แฮปปี้”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“ตั้งแต่วันที่เรามีพัทนี่มา ซึ่งตอนนี้ก็ปาเข้าไปเป็นปีที่ห้าแล้ว เราได้พาพัทนี่ออกไปเดินข้างนอกทุกวัน วันละสองครั้ง ครั้งละเกือบหนึ่งชั่วโมง ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกก็ตามแต่ การได้ออกกำลังกายด้วยการเดินทุกวันช่วยทำให้เราทั้งสองมีสุขภาพกายและจิตดี อีกอย่างหนึ่ง พัทนี่ช่วยทำให้ผมคิดเป็นประจำว่า เพราะชีวิตของเขานั้นมันช่างสั้นยิ่งนัก—โดยเฉลี่ยแล้ว สุนัขพันธ์ุโกลเดน รีทรีฟเวอร์จะมีชีวิตอยู่แค่ประมาณ 10-12 ปีเท่านั้น—เราก็ควรจะใช้เวลาอยู่กับเขาให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ เพราะเวลาไม่เคยคอยใครจริงๆ ซึ่งการคิดแบบนี้ก็ช่วยในการเขียนหนังสือของผมตรงที่ว่า ชีวิตคนเราก็สั้นเหมือนกัน ถ้าเรามัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งในเรื่องที่เราอยากจะทำไปเรื่อยๆ อย่างเช่นการเขียนหนังสือที่เราอยากให้คนอื่นอ่าน เราอาจจะเสียใจในภายภาคหน้าก็ได้”

ดูรายละเอียดหนังสือของ ‘ณัฐวุฒิ เผ่าทวี’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/author/powdthavee/ 

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“น้องลี่ (ชื่อเต็มเหมยลี่ คุณแม่ตั้งให้แบบแรนดอม) เป็นแมววิเชียรมาศ (ไม่แท้) ปัจจุบันอายุสองขวบนิดๆ นิสัยกลางๆ ไม่ดื้อและไม่ซนมาก ปีนสูงไม่ค่อยเป็น ชอบทำสายตาตัดสินเหล่ามนุดบ่อยๆ 

“ที่มาที่ได้เลี้ยงน้อง พอดีช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ แล้วถูกล็อกดาวน์ เลยมีไอเดียอยากเลี้ยงน้องขึ้นมา (จริงๆ อยากเลี้ยงมานานแล้ว) แล้วพอดีมีประกาศแมวหาบ้านจากรุ่นน้องที่รู้จักกัน โดยคอกลูกแมวนี้ตลกมาก คือทุกตัวเป็นสีแรนดอมหมดเลย แต่ดันมีตัวนึงเป็นสีวิเชียรมาศพอดี เห็นแล้วถูกชะตา จึงขอมารับเลี้ยงแบบฟ้าแลบ เพราะกลัวน้องโดนคนอื่นแย่งมากๆ (ที่บ้านก็งงๆ จู่ๆ มาเลี้ยงแมวอะไรของมรึ้ง)”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“ลี่เป็นแมวกลางๆ ไม่ค่อยสร้างวีรกรรมหวือหวานัก แต่มีครั้งนึงที่มีแมวแถวบ้านบุก แล้วเรางีบอยู่ ได้ยินแต่เสียงแมวตีกันตรงระเบียง ตกใจออกมาเจอลี่นั่งร้องไห้ใต้โต๊ะ พร้อมๆ กับแมวคู่กรณียืนดูห่างๆ หลังจากไล่แมวนอกไปแล้ว ก็ต้องมาปลอบลี่โอ๋น้องพักใหญ่ ตอนนั้นคือรู้สึกเฟลกับตัวเองมากๆ ที่ปล่อยให้แมวเข้ามาได้ง่ายๆ มันคงเป็นฟีลแบบพ่อแม่ปล่อยลูกโดนเพื่อนต่อยล่ะมั้ง”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“การมีน้องส่งผลให้รู้สึกเป็นคนใจเย็นและมีระเบียบมากขึ้น เพราะต้องคอยดูแลข้าวปลาอาหารน้องและตักอึใดๆ 5555 เวลาน้องซนตอนที่เรายุ่งๆ ก็ฝึกจิตพอตัว เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ยิ่งไปดุไปตียิ่งมีแต่ผลแย่ อีกเรื่องนึงคือลดความเหงาได้มาก มีน้องอยู่ข้างๆ เป็นเพื่อนทุกวัน และคอยส่งสายตาจับผิดเราตลอด

“ในส่วนช่วยเรื่องเขียนหนังสือนั้นไหม ยังไม่แน่ใจ ไม่ค่อยสังเกตเลย เพราะช่วงนี้ไม่ค่อยเขียนหนังสือเลย 55555 แต่จะพยายามเขียนฮะ”

ดูรายละเอียด อาคิเต็ก-เจอ’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/product/architecture/

ทำไมถึงได้เลี้ยงน้อง

“ช่วงนึงชอบไปเล่นกับแมวที่คาเฟ่แล้วติดน้อง อยากไปแทบทุกวัน เลยรู้สึกว่าเราจะไปคาเฟ่แมวทุกวันไม่ได้ หามาเลี้ยงเป็นของตัวเองดีกว่า ก็ถามพี่ที่คาเฟ่กับคนรู้จักว่าควรหาจากไหน เขาก็บอกว่าจากเฟซบุ๊กเลย ก็ลองไปหาตามกรุ๊ปแมวดู ตอนแรกอยากได้แมวอุ้งเท้าชมพู แต่ว่าไปเจอน้องแล้วถูกชะตา แม้น้องจะอุ้งเท้าดำ เลยตั้งชื่อให้ว่า ‘ตินดัม’ (ตีนดำ) 55”

วีรกรรมของน้องที่น่าจดจำ

“จริงๆ ที่จะเลี้ยงแมวก็คาดหวังให้แมวมาอ้อน มาคลอเคลีย มานอนบนตัวแบบแมวในอินเทอร์เน็ต แต่เอาเข้าจริงตินดัมเป็นแมวหวงตัวมากกกก ต้องมีระยะ ถ้าใกล้เกินจะขยับหนีทันที

“ตินดัมเป็นแมวขี้กลัวมาก ไม่ชอบออกไปข้างนอก ถ้าวันไหนเป็นวันหยุดแล้วเห็นพ่อกับแม่แต่งตัวเตรียมออกไปข้างนอก น้องจะมุดหนีไปหลบใต้เตียงทันที เพราะกลัวจะพาออกไปด้วย”

การที่มีน้องอยู่เป็นเพื่อนส่งผลอะไรกับชีวิตและการเขียนหนังสือบ้าง

“รู้สึกว่าการมีตินดัมอยู่ด้วยช่วยเติมเต็มที่บ้าน ทำให้พ่อกับแม่หายเหงา ตอนแรกที่จะเอามาเลี้ยง พ่อบอกว่าจะไม่ยุ่งเด็ดขาด แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าคนที่คอยให้อาหารกลายเป็นพ่อไปแล้ว ส่วนตัวเองก็รู้สึกดีที่มีก้อนนิ่มๆ มาให้กอดทุกวัน จะได้มีแรงทำงานหาเงินมาเลี้ยงแมว 555”

ป.ล. สามารถติดตามน้องได้ที่ instagram: tindumm นะคะ

ดูรายละเอียดหนังสือของ ‘โชติกา ปริณายก’ เพิ่มเติมได้ที่ salmonbooks.net/author/chotika/


salmonbooks

RELATED ARTICLES

VIEW ALL