‘มนสิชา’ คือผู้ร่วมก่อตั้งเพจ ‘พื้นที่ให้เล่า’ ที่มีผู้ติดตามรอคอยอ่านคอนเทนต์เรื่องเล่าในประวัติศาสตร์อยู่เสมอ อีกทั้งเป็นหนึ่งในนักเขียนผู้มีผลงานหนังสือขายดีกับแซลมอน ทั้ง ‘WORLD WAR TOOLS สงครามโลกในสิ่งของ’ และ ‘HISTORY PALETTE ประวัติศาสตร์มีสี’ ที่ทำให้การอ่านเรื่องประวัติศาสตร์มีรสชาติ สนุก และเข้าถึงง่ายมากขึ้น
ล่าสุดมนสิชาเพิ่งมีผลงานเล่มใหม่อย่าง ‘ROYAL LOVE ประวัติศาสตร์การครองรัก’ ที่หยิบยกเรื่องความสัมพันธ์รสหวานขมของบุคคลสำคัญในอดีตมาบอกเล่า เป็นหนึ่งในหนังสือขายดีประจำบูธจาก #งานหนังสือ ครั้งที่ผ่านมา
เราจึงอยากรวบรวมผลงานทั้ง 3 เล่มที่บอกเล่าประวัติศาสตร์โลกต่างแง่มุม หลากรสชาติมาแนะนำตัวกับนักอ่านอีกครั้ง เผื่อใครตกหล่นเล่มไหน หรืออยากอ่านประวัติศาสตร์รสชาติแบบใด จะได้ตามเก็บผลงานของมนสิชาได้ครบถ้วน
สงครามโลกครั้งที่ 2 คือเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่เราต่างได้ยินได้อ่านกันมาบ้าง แต่อาจยังไม่รู้ว่านอกจากการต่อสู้ในสนามรบ บริบททางการเมืองระหว่างประเทศ และความสูญเสีย ‘สิ่งของ’ ใกล้ตัวที่ดูไม่น่าเกี่ยวอะไรกับสงคราม แต่กลับมีบทบาทและบันทึกเรื่องเล่าในช่วงเวลาสำคัญไว้
น้ำหอม CHANEL No.5 ที่เป็นตัวแทนสงครามระหว่างยิวกับนาซี, ภาพวาดโมนา ลิซ่า เคยต้องอพยพหนีสงคราม, จดหมายและไดอารีที่เขียนด้วยเลือดและน้ำตาจากแนวรบตะวันออก, ลิปสติกสีแดง อาวุธที่ทรงพลังของประชาชนผู้อยู่แนวหลัง, ชาดำ เครื่องดื่มที่เป็นกำลังใจสำคัญให้ทหารอังกฤษ ไปจนถึงโตเกียว โอลิมปิก การแข่งขันกีฬาครั้งสำคัญที่สาบสูญเพราะสงคราม
ไม่ว่าจะเป็นคนที่สนใจอ่านประวัติศาสตร์ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรืออยากลองชิมลางเรื่องเล่าประวัติศาสตร์แบบเข้าใจง่าย ‘WORLD WAR TOOLS สงครามโลกในสิ่งของ’ เล่มนี้น่าจะช่วยเติมรสชาติการอ่านของคุณให้เข้มข้น มีส่วนผสมจากหลายเรื่องราว เคล้ากลิ่นควันจากสงคราม ทำให้มุมมองที่มีต่อสงครามโลกครั้งนี้สมบูรณ์และหลายบริบทยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้สีดำอาจทำให้เรานึกถึงความสูญเสียหรืองานศพ สีขาวทำให้นึกถึงงานแต่งงาน สีชมพูนึกถึงความรัก แล้วในยุคประวัติศาสตร์ สีสันเหล่านี้มีความหมายต่อผู้คนและสังคมอย่างไร
มนสิชาได้รวบรวมเรื่องราว ทั้งการกำเนิดสี ที่มา ความหมายแรกเริ่ม การพัฒนาไปสู่ความหมายใหม่ รวมถึงเกร็ดที่เกี่ยวข้องซึ่งบอกเล่าความเป็นไปในยุคประวัติศาสตร์ได้ เช่น สีแดงของดอกคาร์เนชั่นเคยเป็นตัวแทนความรักของราชวงศ์สเปน, สีเขียวเคยถูกมองเป็นสีแห่งความมั่งคั่ง ก่อนจะผันแปรไปเป็นสัญลักษณ์ของความรักที่ผิดแผก, สีม่วงเคยถูกสงวนให้เฉพาะชนชั้นปกครอง แต่กลับไม่เคยปรากฏในสีธงชาติใดๆ เลย ไปจนถึงสีดำที่เคยเป็นทั้งแสงสว่างกับความหวัง และสีส้มที่ชวนให้ตั้งคำถามว่าถูกตั้งชื่อจากผลส้ม หรือผลส้มถูกเรียกแบบนั้นเพราะมีเปลือกสีส้มกันแน่
‘HISTORY PALETTE ประวัติศาสตร์มีสี’ น่าจะเหมาะสำหรับคนที่อยากทดลองอ่านเรื่องเล่าประวัติศาสตร์แบบง่ายๆ ตัวละครและความซับซ้อนไม่มาก อ่านสนุกเปรี้ยวหวานลงตัว อ่านจบแล้วยังทิ้งอาฟเตอร์เทสต์และกลิ่นหอม ชวนให้อยากอ่านประวัติศาสตร์เล่มต่อๆ ไป
ความรักและความสัมพันธ์เป็นเรื่องสำคัญเสมอสำหรับมนุษย์ แต่กับบุคคลชนชั้นปกครองแผ่นดิน มีอำนาจนำพาประเทศและประชาชนไปสู่อนาคตที่ดีหรือดิ่งลงเหวได้ ความรักความสัมพันธ์ส่งผลอย่างไรกับพวกเขา และสร้างเรื่องราวในประวัติศาสตร์ไว้อย่างไร
ไกเซอร์วิลเฮล์มที่ 2 ในวันที่สูญเสียอำนาจและต้องออกนอกประเทศ ไม่เหลืออำนาจใด แต่โชคชะตากลับพาให้พบหญิงสาวที่กลายเป็นคู่ทุกข์คู่ยากช่วงบั้นปลายชีวิต, การสมรสที่เริ่มต้นจากเกมการเมือง ระหว่างเฮนรีที่ 7 และ เอลิซาเบธแห่งยอร์ก กลับก่อตัวเป็นความรักที่มั่นคง สร้างรากฐานราชวงศ์ทิวเดอร์ให้ตั้งมั่น, จักรพรรดินีมาเรีย เทเรซา กับการวางแผนเพื่อความมั่นคงของอาณาจักร ด้วยการขีดเส้นทางสมรสให้กับลูกๆ อันเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตของราชินีผู้โด่งดัง มารี อ็องตัวเน็ต
เรื่องราวความรักหวานขมของบุคคลสำคัญในราชวงศ์ยุโรปที่บอกเล่าบรรยากาศการต่อสู้เพื่อรักษาและช่วงชิงบัลลังก์ ฉายให้เห็นภาพเกมการเมืองทั้งในและระหว่างประเทศ อีกทั้งโยงไปถึงเหตุการณ์สำคัญอย่างสงครามโลกที่ 1 และ 2 มนสิชารวบรวมมาเล่าไว้แล้วใน ‘ROYAL LOVE ประวัติศาสตร์การครองรัก’