เพลงไทยที่อยากให้เพื่อนไม่จริงใน ‘CONVERSATIONS WITH FRIENDS แค่เพื่อนคุย’ ได้ฟัง

25 พฤศจิกายน 2022 | by salmonbooks

หลังเราพลิกอ่าน ‘CONVERSATIONS WITH FRIENDS แค่เพื่อนคุย’ นวนิยายที่จะพาไปทำความรู้จักและส่องความสัมพันธ์ของคนสี่คนอย่าง ‘ฟรานเซส—นักศึกษาวัยยี่สิบเอ็ดที่เย็นชาและไม่มั่นใจในตัวเอง’ ‘บ๊อบบี้—เพื่อนสนิทและอดีตคนรักของฟรานเซส’ ’เมลิสซา—นักเขียนชื่อดัง’ และ ‘นิก—นักแสดงหนุ่มหล่อผู้เป็นสามีของเมลิสซา’

เราก็พบว่าการเล่าถึงความสัมพันธ์ของ ‘แซลลี รูนีย์’ (Sally Rooney) นอกจากจะทำให้อยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของตัวละคร บางครั้งยังทำให้อยากหยุมหัว เข้าไปเขย่าตัวแรงๆ สักสองสามที แต่เดี๋ยวก่อน เราจะมาใช้กำลังกันแบบนี้ไม่ได้ จุดประสงค์ของโพสต์นี้คือ เราจะบอกว่า ระหว่างอ่าน ‘CONVERSATIONS WITH FRIENDS’ อยู่ๆ เราก็ได้ยินเสียงเพลงดังขึ้นในหัว เพราะสถานการณ์ในเล่ม บางบทสนทนา และความคิดของตัวละครได้ทำให้บางเพลงผุดเข้ามา ซึ่งไม่ใช่เพลงสากลแบบที่ปรากฏอยู่ในเล่มด้วย แต่เป็นเพลงไทยที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นี่แหละ

วันนี้เราเลยขอแปะลิสต์เพลงพร้อมกับเรื่องราวของพวกเขาทั้งสี่ เผื่อใครที่กำลังสนใจว่าเรื่องของพวกเขาน่าส่องยังไงจะได้เห็นภาพคร่าวๆ หรือใครกำลังอ่านอยู่จะลองเปิดเพลงเหล่านี้คลอๆ เพิ่มความอินด้วยก็ได้

เปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของเรื่อง

เล่นของสูง – Big Ass

“ระหว่างการสนทนา นิกหัวเราะกับทุกมุกตลกของฉัน ฉันบอกเขาว่าฉันหลงคนที่หัวเราะให้มุกตลกของฉันได้ง่ายๆ และเขาบอกว่าเขาหลงคนที่ฉลาดกว่าเขาได้ง่ายๆ

เดาว่าคุณคงไม่ได้เจอคนแบบนั้นบ่อย

เห็นไหม ชมกันเองแบบนี้ก็ดีออกนะ”

— หน้า 64

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองงงง หลังงานแสดงบทกวีซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิง ฟรานเซสและบ๊อบบี้ได้รับการติดต่อสัมภาษณ์จากเมลิสซา พวกเขาทั้งสี่เลยได้พบเจอกันบ่อยๆ นำพาให้ฟรานเซสและนิกได้เจอกันเรื่อยๆ ทั้งระหว่างกินมื้อค่ำที่บ้าน งานวันเกิดของนิก จนทั้งคู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น มากขึ้น และต่อให้รู้ทั้งรู้ว่าเขามีภรรยาแล้ว ฟรานเซสก็ยังพาตัวเองเข้าไปชิดใกล้ แถมฝ่ายชายก็ปล่อยใจสนุกๆ ไปด้วย ทั้งคู่เลยต้องอยู่ในความสัมพันธ์สุ่มเสี่ยงกันไป เฮ้อ ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวันแหละ

ไม่ใช่อิจฉา – FFK 

“แต่พอได้รู้ว่าเธอเป็นแฟนคนอื่น ทำไมในใจมันถึงอยากหวงเธอขึ้นมา รู้หรอกว่าไม่มีสิทธิ์ แต่คิดไปแล้วนี่นะ มันคงจะผิดมากใช่มั้ย”

คืนหนึ่งที่บ้านพักตากอากาศในฝรั่งเศสซึ่งเมลิสซาได้เอ่ยปากชวนฟรานเซสและบ๊อบบี้ไปพักกับเธอและนิก ทำให้นิกและฟรานเซสสานสัมพันธไมติ๊ดง่ายขึ้น แต่การคบหาคนมีเจ้าของ ต้องเฝ้ามองชีวิตของเขากับตัวจริง และกลับมาทบทวนตัวเองที่ตกอยู่ในสถานะไม่ชัดเจนแบบนี้ ก็ย่อมเกิดความสับสนปนอยากรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายบ้างแหละ แต่พอถามไถ่ออกไปแล้วก็เจ็บแปลบในใจ ไม่เชื่อเหรอ ลองอ่านบทสนทนาข้างล่างนี้ดู

“ทำไมคุณถึงไม่เคยนอกใจมาก่อน ฉันถาม

โอ้ เพราะผมไม่ได้เจอใครเลย

หมายความว่ายังไง

ชั่วขณะหนึ่ง ฉันหลงคิดไปว่าเขาจะพูดว่า ผมไม่เคยพบใครที่ผมปรารถนาแบบเดียวกับที่ผมปรารถนาคุณ แต่เขากลับพูดว่า ผมก็ไม่รู้ เราอยู่กันอย่างมีความสุขมานาน ผมไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยจริงๆ เวลามีความรัก คุณไม่ได้คิดอะไรพวกนี้หรอก

แล้วคุณหมดรักเมื่อไหร่

เขายกมือออก ไม่มีส่วนไหนของร่างกายเราสัมผัสกันอีก

ผมไม่คิดว่าผมหมดรัก เขาพูด

แสดงว่าคุณยังรักเธอ

ใช่”

— หน้า 108

 

ลงใจ – Bowkylion 

“ฉันทำให้ตัวเองไม่เหลือคนที่ไว้ใจได้ ไม่มีใครมารู้สึกเห็นใจในสิ่งที่ฉันทำลงไป แล้วหลังจากที่ฉันทำทั้งหมดนั่น เขาก็ยังรักคนอื่น ฉันบังคับตาให้หลับแล้วกดหัวลงไปที่หมอนอย่างแรง ฉันนึกถึงคืนก่อนที่เขาบอกว่าเขาต้องการฉัน ตอนนั้นรู้สึกยังไง แค่ยอมรับเถอะ ฉันคิด เขาไม่ได้รักเธอ นั่นคือสิ่งที่ทำให้เจ็บ”

หน้า 110

“โอ๊ย เจ็บไปทั้งหัวใจทำไมยังทน เริ่มใหม่อีกกี่หนนะคนใจร้าย ปวดไปทั้งหัวใจแทบเจียนตาย ขาดเธอไม่ได้ เพราะฉันนั้นลงใจให้เธอ”

ฟรานเซสเริ่มรู้สึกแล้วว่าสิ่งที่ทำไป การโกหกบ๊อบบี้ และเมลิสซาไม่ใช่เรื่องที่โอเคแล้ว (ก็ใช่น่ะสิ) เจ็บขนาดนี้ ได้กลับมาทบทวนความรู้สึกตัวเองขนาดนั้น ฟรานเซสคงคิดได้แล้วแหงๆ มั่นใจว่าต้องยอมถอยออกมาจากความสัมพันธ์รักคนมีเจ้าของแน่นอน…

แค่คนโทรผิด – เป๊ก อ๊อฟ ไอซ์ 

“เขารับหลังฉันโทรไปหลายครั้ง ฉันไม่ได้ยินเสียงของตัวเองตอนที่พูด แต่คิดว่าฉันพูดว่า อยากคุยกับเขา ฟันของฉันสั่นกึก และฉันอาจพูดไม่รู้เรื่อง ส่วนเขาพูดเหมือนกระซิบ

เมาหรือเปล่า เขาพูด ทำไมโทรหาผมแบบนี้

ฉันบอกว่าฉันไม่รู้ ฉันแสบปอดและหน้าผากก็เปียก

ที่นี่เพิ่งจะตีสองเองนะ เขาพูด ทุกคนยังตื่นอยู่ พวกเขาอยู่อีกห้อง

คุณอยากให้ผมมีปัญหาเหรอ”

หน้า 136 

ฟรานเซสยังไม่ถอย… หลังเธอและบ๊อบบี้กลับจากฝรั่งเศส ฟรานเซสก็ประสบมรสุมชีวิตทั้งเรื่องพ่อและสุขภาพที่เธอต้องกังวลอย่างหนัก อยากมีใครสักคน (ชื่อย่อนิก) มาดูแลหัวจิตหัวใจด่วนๆ โทรไปก็กะได้ที่พึ่งพิง แต่ความสัมพันธ์ของเธอและเขาดันเป็นความลับ ไม่ถูกที่ และผิดเวลามากไปหน่อย 

มาๆ ร้องพร้อมกันนะฟรานเซส สาม สี่ “ไม่ต้องรับสาย ถ้าเธอไม่เหงา อยู่กับเขาก็รู้ว่าเธอคงไม่แคร์คนอย่างฉัน ฉันมันก็แค่คนโทรผิด บอกเขาฉันโทรผิด ผิดเองที่เป็นคนมาทีหลัง แล้วดันไปรักเธอ” 

ฉันก็รักของฉัน – นิว จิ๋ว

“ฟรานเซส คุณมีสิทธิ์อะไรถึงทำอย่างนั้น? ”

— หน้า 185

คือมันต้องมีสักวันแหละที่ความสัมพันธ์ลับๆ จะเข้าหูเมลิสซา และระเบิดเวลาของเธอก็ตู้ม เป็นโกโก้ครันช์ ก็คือฟีลประมาณนี้เลย “เสียใจ คนคนนี้ไม่ใช่ของเธอ ได้โปรดอย่ามาข้องแวะกันอีก ฉันหวังว่าคงเข้าใจเพราะมันคือสิทธิ์ของฉันที่จะเรียกร้อง … ฉันก็รักของฉัน เข้าใจบ้างไหม ฉันมีสิทธิ์จะรักไม่ผิด ใช่ไหม”

อย่าอยู่เลย – Tattoo Colour 

“ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไง ผมรู้สึกโคตรแย่เลย คุณดูโกรธผมมากและผมไม่รู้ว่าจะทำให้คุณมีความสุขได้ยังไง

บางที เราไม่ควรเจอกันอีก”

— หน้า 222

“จักรวาลของคนเหงา ที่เคยเข้มแข็งเพียงลำพังมาแสนนาน ก็พังทลาย ขอเชิญ ได้โปรดไปไกลๆ สักที จะอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย โปรดอย่าอยู่เลยนะรีบไป แค่ปล่อย แค่ปล่อยให้เวลา ช่วยเยียวยาฉันเอง”

เมื่อความรักทำให้ความแข็งแกร่ง ความเย็นชาที่ฟรานเซสเคยมีพังทลายลงเรื่อยๆ ยิ่งพอเมลิสซารู้ความจริง ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสามก็ดูจะยุ่งเหยิงไปใหญ่ จนฟรานเซสได้สังเกตความรู้สึกของแต่ละคนอีกครั้ง เอาล่ะ เรื่องทุกอย่างก็คงจบแค่หน้า 222 แหละ นิกและฟรานเซสกลับตัวกลับใจ แยกย้ายกันไปเยียวยาตัวเองสักที

เพื่อนไม่จริง – Polycat

“ความจริงก็คือก็คือฉันรักเธอ และรักเธอเสมอมา ฉันหมายความว่าแบบเพลโตนิกหรือเปล่า”

— หน้า 231

“ดีอยู่แล้วที่เธอไม่รักฉัน เพราะอาจแยกทางในวัน ไหนก็ได้ ทนไม่ไหวถ้าเป็นคนทำร้าย เธอให้ช้ำและซ้ำด้วยน้ำมือตัวเอง”

ถึงจะลดสถานะจากคนรักมาเป็นเพื่อนสนิท แต่ความสัมพันธ์ระหว่างฟรานเซสและบ๊อบบี้ก็ยังซับซ้อนอยู่เนืองๆ การแสดงออกและมุมมองความคิดของทั้งคู่ดูจะมีเส้นบางๆ ระหว่างคำว่าเพื่อนและแฟนอยู่ ซึ่งการทะเลาะกันครั้งหนึ่งก็เบิกเนตรฟรานเซสว่าจริงๆ บ๊อบบี้ก็คือคนสำคัญในชีวิตไม่ว่าจะสถานะใดก็ตาม

“เป็นคนที่เธอไว้ใจ มันก็ดีเท่าไร ไม่เสี่ยงเกินไปกว่านี้ เพราะมันอาจจะไม่คุ้มกัน อยากเป็นคนสำคัญ แค่เพื่อนแล้วกัน เพราะฉันไม่มีเธอไม่ได้”

นวนิยายว่าด้วยความสัมพันธ์ของคนสี่คนที่ฉายภาพช่วงวัยที่โหยหาการยอมรับ (และรัก) ช่วงเวลาแห่งความสับสน ช่วงที่ความเข้มแข็งยอมหลีกทางให้ความเจ็บปวดเข้ามาแทนที่ ผลงานการเล่าเรื่องของ ‘แซลลี รูนีย์’ เจ้าของเดียวกับ ‘NORMAL PEOPLE ปกติคือไม่รัก’ ยังมีปมที่ผูกไขว้ไว้ให้คุณได้ติดตามต่อ ใครสนใจทดลองอ่านตัวอย่างได้ที่ minimore.com/b/cwf หรือถ้าใครอ่านแล้วนึกถึงเพลงไหนก็บอกกันได้ เดี๋ยวเราตามไปฟังบ้างงงง

สั่งซื้อได้ทาง Minimore และ Shopee


conversations with friends salmonbooks

RELATED ARTICLES

VIEW ALL