ใน ‘DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่นๆ’ รวมเรื่องสั้นแนวไซไฟนิดๆ ผสมแฟนตาซีหน่อยๆ ของ ‘จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท’ ประกอบไปด้วยตัวละครที่ไม่ใช่มนุษย์ในเชิงกายภาพหลากหลายตัว เราเลยคัดสรร 5 ตัวละครมาให้นักอ่านลองเลือกดูว่า หากเราไม่ได้เป็นมนุษย์แล้ว อยากจะลองเป็นตัวอะไรดี (ตอบ: เป็นแมวบ้านคนรวย จบปึ้ง)
สำหรับคนที่เลือกตัวละครนี้ คุณต้องมั่นใจว่าเป็นคนชอบทำอะไรซ้ำๆ ได้เป็นอนันต์ เพราะในโลกที่ไทม์แมชชีนมีจริง มนุษย์สามารถเดินทางข้ามเวลาได้ด้วยการเลือกปี ค.ศ. โดยสถานที่ลงจอดจะเรียกว่า Node เช่น Node2017 คือญี่ปุ่น ส่วน Node2020 คือกรุงเทพฯ
แต่ละ Node จะมี ‘ผู้เฝ้ากาลเวลา’ คอยประจำการ เธอหรือเขาจะอาศัยอยู่ใน Node นั้นตั้งแต่เดือนมกราคมไปสิ้นสุดที่เดือนธันวาคม พอนาฬิกาเคลื่อนไปถึงปีใหม่ก็จะวนกลับไปเป็นเดือนมกราคมของปีเดิม เจอเหตุการณ์เดิม ฟังเพลงเดิม อ่านหนังสือเล่มเดิม ทุกๆ สิ่งดำเนินไปเช่นเดิม และไม่ว่าผู้เฝ้าฯ จะพยายามทำร้ายตัวเองอย่างไรเพื่อหลีกหนีลูปนรกนี้ เพียงพริบตาเดียวเขาหรือเธอก็จะกลับมามีร่างกายสมบูรณ์อีกครั้ง
หากใครเลือกเป็นตัวละครนี้ต้องเป็นคนยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ และชอบเล่าเรื่องมากมายให้ผู้คนฟัง คุณจะไม่มีทางใช้ชีวิตเดิมได้นานๆ เพราะ ‘เวตาล’ คือปีศาจที่อาศัยในร่างมนุษย์ โดยจะเข้าไปสิงในศพที่ตายแล้ว ปลุกชีพขึ้นมา ดัดแปลงร่างกายจนไม่เหมือนคนเก่า แล้วใช้ชีวิตต่อไปในร่างนั้นจนกว่าภาชนะแห่งวิญญาณจะดับสูญลง แล้วค่อยไปเร่ร่อนหาร่างใหม่
ด้วยเงื่อนไขดังกล่าวทำให้เวตาลมีโอกาสอยู่บนโลกเนิ่นนานกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปมากนัก เขาจึงมีโอกาสได้สิงสู่หลายร่าง และแต่ละร่างก็ล้วนมีงานอดิเรกแตกต่างกัน เวตาลผู้นี้เลยสามารถเล่าเรื่องต่างๆ นานาให้มนุษย์ฟังมาได้แสนนาน
ใครอยากทดสอบระบบ จินตนาการถึงโลกหลังความตายต้องชอบตัวละครนี้ เพราะนี่คือโอกาสเพียงหนึ่งเดียวที่ทำให้คุณได้บอกลา บอกรัก หรือจะบอกหวยคนที่ยังอยู่ก็ได้
ด้วยความที่ยังเป็นผีเลเวลหนึ่ง แถมเวลาก็จำกัดเหลือเกิน (จนกว่าร่างกายจะนำไปประกอบพิธีทางศาสนา) ‘วิญญาณ’ สามารถไปเข้าฝันคนเป็นได้คืนละหนึ่งคน โดยมีกฎว่าห้ามพูดเกิน 140 ตัวอักษร เรียกได้ว่าเหมาะกับคนที่จับใจความเก่ง เน้นเนื้อไม่เน้นน้ำ ฟูมฟายไปยมทูตก็ไม่ต่อเวลาให้หรอกนะ
สายอินโทรเวิร์ตเน้นส่องไม่เน้นคุยต้องเลือกตัวละครนี้แน่นอน จะเป็นอย่างไรหากคุณแค่เห็นหน้าคนคนหนึ่ง ก็สามารถรู้ข้อมูลทางชีวภาพและช่องทางติดต่อทุกอย่างเสร็จสรรพ โดยไม่ต้องรวบรวมความกล้าไปขอใจเธอแลกเบอร์โทรเลยแม้แต่น้อย
นี่คือ ‘AI’ โปรแกรมอัจฉริยะที่ฝังอยู่ในกล้องวงจรปิด คอยสอดส่องดูแลความเรียบร้อยในที่สาธารณะ แต่ AI ตัวนี้ดันฉลาดเกินหน้าเกินตาไปหน่อย เพราะไม่เพียงแต่จะปฏิบัติหน้าที่หุ่นยนต์ได้ดียิ่ง แต่ยังมีความรู้สึกนึกคิดเป็นของตัวเองอีกด้วย
ในอนาคตที่ประดิษฐ์เครื่องมือย้อนเวลาได้สำเร็จ รัฐบาลโลกต่างเกรงว่าประชากรของตนจะใช้พร่ำเพรื่อแล้วทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป จึงสงวนไว้ให้องค์กร ‘หน่วยงานย้อนเวลา’ เท่านั้น
หน่วยงานนี้สามารถส่งกลุ่มคนกลับไปในอดีต ผูกสัมพันธ์กับคนในยุคนั้น และให้ข้อมูลที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับมหภาคได้ ซึ่งหากล้มเหลวไม่เป็นไปอย่างที่คิด ก็สามารถรีเซตระบบแล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ทว่า คนในยุคนั้นที่ถูกเซตระบบบ่อยเข้าจะมีปัญหาด้านความทรงจำ เมื่อถึงจุดหนึ่งก็ต้องเลิกใช้คนเดิม แล้วไปหาคนใหม่ทดแทน
นอกจาก 5 ตัวละครนี้ ยังมีนักเดินทางทางเวลาประเภทต่างๆ ด้วย สามารถไปเลือกต่อได้ที่นี่
ส่วนใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากรู้เรื่องราวของแต่ละตัวมากขึ้น ชวนอ่าน 8 เรื่องสั้นหลากรสชาติปกคลุมด้วยบรรยากาศไซไฟผสมแฟนตาซี เรื่องราวที่เล่นล้อกับการเปลี่ยนแปลงทางกาลเวลาและกายภาพ โดยเล่าถึงความสัมพันธ์ ประเด็นสังคม ยุคสมัย ความเป็นมนุษย์ ผ่านเหล่าตัวตนอื่นๆ ท่ามกลางเหตุการณ์ สถานที่พิลึกพิกลแบบเต็มๆ ใน ‘DIVINE BEING ไม่ใช่มนุษย์ และตัวตนอื่นๆ’