แม้การชื่นชมตัวเองบ่อยๆ จะเป็นหนึ่งในวิธีการเสริมสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง (self-esteem) ถึงอย่างนั้น พฤติกรรมการชื่นชมหรือให้เครดิตตัวเองบางรูปแบบก็อาจกลายเป็นการเอาดีเข้าเรา เอาผิดให้คนอื่น จนส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ การใช้ชีวิต รวมถึงระบบโครงสร้างที่เรามองไม่เห็นได้ด้วย
เรากำลังพูดถึง ‘Self-serving bias’ หนึ่งในพฤติกรรมทางจิตวิทยาที่เรียกว่า Cognitive bias (รูปแบบของความคิด มุมมอง หรือการตัดสินใจที่โน้มเอียง บิดเบี้ยวจากความคิดเป็นเหตุเป็นผล) เป็นอคติทางความคิดที่มองว่าความสำเร็จเกิดจากปัจจัยภายในหรือตัวเองเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม พรสวรรค์ หรือความตั้งใจ แต่เมื่อไหร่ที่ล้มเหลวหรือเกิดความผิดพลาด สิ่งนั้นย่อมเกิดจากปัจจัยภายนอก โชคชะตา หรือคนอื่นล้วนๆ ไม่มีตัวเราเป็นส่วนผสมเลยสักนิด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าได้คำชมจากหัวหน้าหลังพรีเซนต์ เราอาจให้เหตุผลกับตัวเองว่า “เพราะฉันเตรียมตัวมาดี พรีเซนต์แบบเลิศๆ เลยล่ะ” กลับกันถ้าหัวหน้าตำหนิหรือวิจารณ์ อาจบอกว่า “วันนี้หัวหน้าคงอารมณ์ไม่จอย ไม่ก็เขาคงไม่เก็ตสิ่งที่ฉันเสนอแน่ๆ”
ดูผิวเผินเจ้าอคติที่ว่าอาจเป็นเรื่องปัจเจก แต่จริงๆ มันอาจส่งผลให้คนเราใช้สายตาตัดสินผู้คนในสถานการณ์ต่างๆ โทษอีกฝ่ายในความสัมพันธ์ หรือโยนความผิดพลาดให้คนอื่น กลายเป็นนิสัยไม่น่ารักในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น หากเพื่อนร่วมงานเสนอโปรเจกต์ไม่ผ่าน แม้ว่าเขาจะพยายามทั้งวันทั้งคืน เราอาจมองว่าเพราะเขาขี้เกียจและทำการบ้านน้อย ขณะที่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเอง เราจะมองอีกแบบหนึ่ง
ส่วนปัจจัยที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเหล่านี้นั้นมาจากทั้งความเชื่อที่ว่าเรามีอำนาจในการควบคุมสิ่งต่างๆ (Locus of Control) แรงจูงใจต่อการนำเสนอภาพลักษณ์ตัวเอง ช่วงอายุ อิทธิพลทางวัฒนธรรม และการปกป้องความภูมิใจในตัวเอง
แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีพฤติกรรมดังกล่าว แต่เราควรทำยังไงไม่ให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของอคติที่เห็นแก่ตัวนี้ล่ะ?
เว็บไซต์ Verywell Mind แนะนำวิธีหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้ว่า ลองเริ่มจากการฝึกสังเกตพฤติกรรมตัวเอง หยุดคิดสักนิดว่าสิ่งที่ทำมีความเอนเอียงเกินไปหรือเปล่า หมั่นยอมรับตัวเอง เพราะทุกคนล้วนมีข้อบกพร่องและไม่สมบูรณ์แบบ จงโอบรับตัวเองที่ผิดพลาดและล้มเหลวให้เป็นโดยไม่ต้องโทษตัวเอง และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การมีเมตตาและใจดีกับตัวเอง การมองตัวเองด้วยความรักจะช่วยลดความรู้สึกแย่ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อคุณผิดพลาดหรือล้มเหลว
แต่อย่างที่เราบอกว่าการชื่นชมหรือให้เครดิตความพยายามของตัวเองย่อมเป็นเรื่องที่ดี ช่วยเพิ่มความมั่นใจและนับถือตัวเองของเรามากขึ้น เพียงแต่การมีมากเกินพอดีอาจแปรเป็นข้อเสีย สร้างภาพลวงให้คุณกลายเป็นคนมองข้ามความล้มเหลว จนไม่สามารถเรียนรู้จากความผิดพลาดและแก้ไขเรื่องราวนั้นได้
นอกจากนี้ พฤติกรรม Self-serving bias ยังมีบทบาทต่อการเลือกระบบการกระจายรายได้ด้วย โดย ‘ณัฐวุฒิ เผ่าทวี’ พูดถึงพฤติกรรมนี้ไว้ใน ‘MERITOCRAZY ชีวิตจริงที่ชิงโชค‘ ด้วยการหยิบยกงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า กลุ่มอาสาสมัครที่มีอคติเชิงผลประโยชน์ส่วนตัว ให้เครดิตความพยายามกับตัวเองมากๆ จะมีแนวโน้มเลือกการกระจายรายได้ที่รักษารายได้ของตนไว้มากที่สุด ซึ่งหากเราคิดต่อไปว่าถ้าเมืองหรือรัฐบาลมีคนที่มีพฤติกรรมเหล่านี้เยอะขึ้น การสนับสนุนนโยบายต่างๆ เพื่อความเท่าเทียมก็อาจจะไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนอาจพอเห็นภาพว่าพฤติกรรมเล็กๆ อาจมีผลกระทบในระดับวงกว้างมากขึ้น ซึ่งเราขอชวนไปสำรวจหน้าตาของคำว่า ‘โชคชะตา’ และ ‘ความพยายาม’ ที่เชื่อมโยงกับพฤติกรรม ชีวิต และปัญหาสังคมกันต่อในหนังสือ ‘MERITOCRAZY ชีวิตจริงที่ชิงโชค‘
อ้างอิง
• verywellhealth.com/self-serving-bias-7374682
• verywellmind.com/what-is-the-self-serving-bias-2795032
• thedecisionlab.com/biases/self-serving-bias