บันทึกการเดินทางที่ชาวคณะห้ามแตกแถว ต้องทำตามกิจกรรมที่วางไว้ ต้องเยี่ยมชมสถานที่ที่เขาพาไป ต้องกินสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ต้องบันเทิงกับโชว์ต่างๆ ที่จัดให้
ชีวิตการเดินทางที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีโอกาสไป กับมุมมองเปิดโลกใหม่ใน ‘เกาหลีเหนือ’ ดินแดนที่เหมือนจะ ‘ไม่มีอะไร’ แต่อัดแน่นไปด้วย ชีวิต วัฒนธรรม และความแตกต่าง
‘ไม่มีอะไรในเกาหลีเหนือ’ บันทึกการเดินทางไปเกาหลีเหนือของ ‘กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ’ ลูกทัวร์ผู้สนใจประเด็นการศึกษาที่ขยันจด ขยันจำ ขยันถ่ายรูป ขยันถามซอกแซก เพื่อพาทุกคนไปดูว่าจริงๆ ประเทศนี้มีอะไร แล้วนอกจากตัวยังต้องเตรียมอะไรไปอีกบ้าง
หลายคนคงสงสัยว่าเวลาไปประเทศที่ดูลึกลับปิดตายอย่างเกาหลีเหนือ เราสามารถทำอะไรหรือพกอะไรไปได้บ้าง ใช้มือถือได้ไหม ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปหรือติดหนังสือไปอ่านด้วยได้หรือเปล่า
กุลธิดา ผู้มีประสบการณ์เดินทางไปเกาหลีเหนือสองครั้งบอกว่าทุกอย่างชิลกว่าที่คิด เหมือนใช้ชีวิตไหลไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางที่สังคมกำหนดไว้ อาจมีกติกาบางอย่างที่ควรพึงระวังและจดจำไว้บ้างเพื่อความราบรื่นในทริปนั้น ส่วนจะมีอะไรบ้าง ชวนดูในรูปต่อไปกัน
สัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตจัดเป็นของหายาก ขนาดคนเกาหลีเหนือเองยังให้ใช้ได้แค่เจ้าหน้าที่รัฐแบบจำกัดวงและนักศึกษาบางสถาบันเท่านั้น ส่วนประชาชนทั่วไปจะได้ใช้อินทราเน็ตหรือระบบเครือข่ายสื่อสารภายใน ผ่านเครือบริษัท สตาร์ จอยนต์ เวนเจอร์ ดังนั้น ชาวต่างชาติอย่างเราก็คงไม่ต้องสืบ โอกาสเข้าถึงบริการอินเทอร์เน็ตในเกาหลีเหนือนั้นถือว่าน้อยมากถึงมากที่สุด
ขอแนะนำว่าโหลดข้อมูลและแผนที่เวอร์ชั่นออฟไลน์ติดมือถือด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการเทียบเคียงข้อมูล และสะดวกต่อการเดินทางไปไหนมาไหน
จะลิปสติกกี่แท่ง เสื้อผ้าหน้าผมจะมีกี่สีก็จัดไป เพราะขนาดกุลธิดาใส่แว่นสีแสบตา กระโปรงลายดอก เดรสสีเขียวสะท้อนแสงก็ยังเดินทางในเกาหลีเหนือได้สะดวกสบาย
อันที่จริงในช่วงฤดูร้อน สาว ๆ เกาหลีเหนือก็แต่งตัวสีสันจัดเต็มไม่น้อยไปกว่ากุลธิดาเลย ขอแค่อย่าโป๊เปลือยจนเกินงามก็ถือเป็นใช้ได้ เพราะคนที่นั่นไม่ค่อยชิน หรือถ้าต้องเข้าสถานที่ทางการก็แต่งกายตามกาลเทศะจะเหมาะสมกว่า
จริงๆ แล้วนอกจากกล้องที่มีจีพีเอสบอกพิกัดตำแหน่งได้ หรือกล้องที่มีเลนส์ขนาดใหญ่กว่า 150 มิลลิเมตรแล้ว กล้องอื่นๆ ก็เอาเข้าเกาหลีเหนือได้หมดนะ จะเป็นกล้องฟูลเฟรมถ่ายภาพสวยงาม หรือกล้องคอมแพกต์พกพาสะดวก จริงๆ กล้องฟิล์มก็น่าสนใจ เพราะตึกรามบ้านช่องที่เกาหลีเหนือติดโทนหม่นๆ ถ่ายออกมาแล้วได้ฟีลวินเทจมาก
ยังดีว่าตอนที่กุลธิดาไปเยือน เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการสุ่มตรวจกล้องว่ามีภาพถ่ายสุ่มเสี่ยงและหมิ่นเหม่ต่อการเปิดเผยความลับทางราชการหรือเปล่า ซึ่งถ้าใครเจอแบบนั้นก็อาจต้องลบรูปตามที่เจ้าหน้าที่ขอด้วย
อ้อ แม้ว่าเราจะไม่มีอินเทอร์เน็ตสำหรับอัพโหลดรูปถ่ายขึ้นโซเชียลมีเดีย แต่เราก็ยังสามารถส่งโปสต์การ์ดวิวทิวทัศน์ของเกาหลีเหนือกลับบ้านได้นะ
เพราะที่นี่ไม่มีร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อ 24 ชม. ร้านค้าในโรงแรมใหญ่ๆ อาจมียาขายบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีให้เลือกมากมายเท่าไหร่
ป.ล.ในทริปเกาหลีเหนือครั้งหนึ่ง กุลธิดาเคยซุ่มซ่ามเกิดอุบัติเหตุเลือดสาดนิดหน่อย แล้วเธอพบว่าผู้ดูแลทริปเองก็ใช้ยาแดงที่หาซื้อจากร้านขายยาเมืองไทยด้วยแหละ
เกาหลีเหนืออาจจะกึ่งบังคับให้เราต้องใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่จะให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเลิกจับจ่ายช้อปปิ้งก็คงไม่ได้ ดังนั้น อย่าลืมพกเงินสดไปด้วยนะ
ถึงอย่างนั้น ชาวต่างชาติอย่างเราก็ไม่มีโอกาสได้ใช้เงินวอนในเกาหลีเหนือ เพราะสกุลเงินที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติใช้จับจ่าย ได้แก่ หยวน ดอลลาร์ (รับบ้างบางที่) และยูโร (รับบ้างประปราย แต่ไม่แนะนำให้แลกไป) ส่วนเงินทอนก็มักจะได้เป็นสองสกุลแรก แต่ที่งงนิดหน่อยคือถ้าเงินเขามีไม่พอทอน คุณอาจจะได้น้ำเปล่าเป็นเงินทอน เอากับเขาสิคะ!
รับสมัครลูกทัวร์มาร่วมออกเดินทางพร้อมกับ ‘กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ’ ผู้สนใจประเด็นการศึกษาที่ขยันจด ขยันจำ ขยันถ่ายรูป ขยันถามซอกแซก เพื่อพาทุกคนไปดูว่าจริงๆ ประเทศเกาหลีเหนือมีอะไรผ่าน ‘ไม่มีอะไรในเกาหลีเหนือ’ กัน